ขอความรู้หน่อยครับ ถ้ากรณีขโมยขึ้นบ้านสามีเอามาใช้ยิงขู่เพื่อไล่โจรสามีจะมีความผิดไหมครับ ปืนเป็นชื่อของภรรยา (ข้าราชการของ่ายกว่า)
ถาม.พี่ ครับหากผมไม่อยู่บ้านและไป ตจว.หลายวัน และผมเก็บอาวุธปืนไว้ที่บ้านแ หากสมมุติว่ามีคนร้ายหรือขโมยเข้าบ้านผม ภรรยาผมมีสิทธิที่จะใช้อาวุธปืนผมในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหรือไม่ หากว่าภรรยาผมใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงคนร้ายเสียชีวิต ภรรยาผมจะมีความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และหากใช้แล้วจะภรรยาผมจะโดนตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือเป็นความผิดหรือไม่
ตอบ.จากคำถามดังกล่าวผมขอแยกคำถามเป็น 2 ประเด็นนะครับ ประเด็นที่ 1 หากสมมุติว่ามีคนร้ายหรือขโมยเข้าบ้านผม ภรรยาผมมีสิทธิที่จะใช้อาวุธปืนผมในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหรือไม่
ประเด็นที่ 2 หากใช้แล้วจะภรรยาผมจะโดนตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
ผมขอตอบประเด็นที่ 1 ดังนี้นะครับ ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายให้ สมช.เข้าใจก่อนครับคำว่าครอบครองนั้นตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มิได้บัญญัติให้มีความหมายเป็นเฉพาะ ดังนั้นเราจึงต้องถือว่าการครอบครองหมายถึงการยึดถือทรัพย์สินตามป.พ.พ.(ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์) การครอบครองหมายถึงการครอบครองโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ทั้งนี้ตามหลักกฎหมายทั่วไป ( ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๖๗ ) ดังนั้นการครอบครองอาวุธปืนที่จะเป็นความผิดได้นั้นผู้ครอบครองจะต้องมีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ดังนั้นการที่เราเอาอาวุธปืนของสามี / ภริยา ที่เก็บรักษาไว้ภายในบ้านมาใช้ยิงคนร้ายที่บุกเข้ามาในบ้านนั้น จะเห็นได้ว่าเป็นยึดถืออาวุธปืนไว้เพียงชั่วคราวเพื่อนำมาใช้ป้องกันตัวเท่านั้น ยังไม่ถือว่าเรามีเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ( หรือหมายถึงไม่ได้ยึดถือเอาอย่างเป็นเจ้าของนั่นเอง ) ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา ๗
ประเด็นที่ 2 ภรรยาโดนตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อนครับ แต่จะเป็นควรมผิดตามข้อกล่าวหานั้นต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบของการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๒๙๔ / ๒๕๓๒ ขณะเกิดเหตุเป็นเวลา ๒ นาฬิกา ผู้ตายกับพวกปล้นเอาทรัพย์สินในบ้านที่เกิดเหตุไปได้หลายอย่าง จากนั้นผู้ตายซึ่งมีอาวุธปืนพกพร้อมกระสุนปืนได้เข้าไปที่มุ้งของจำเลยในขณะที่จำเลยนอนอยู่ในมุ้งแต่ผู้เดียวในกระท่อมในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุแล้วผู้ตายร้องบอกให้จำเลยนอนเงียบ ๆ จำเลยจึงใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงผู้ตายเป็นของ ล.ภริยาจำเลยซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้โดยชอบด้วยกฎหมาย ล.มอบอาวุธปืนและกระสุนปืนให้จำเลยนำไปเฝ้าคุ้มครองดูแลทรัพย์สินรวมของจำเลยและ ล. ซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยและ ล.ในขณะที่ ล. ก็อยู่ที่บ้านด้วย ดังนี้ ถือได้ว่าการครอบครองอาวุธปืนและกระสุนปืนยังอยู่กับ ล. จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดุจ กัน.