https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2776361อึ้งพบปืนหลวง 18 กระบอกจำนำอยู่กับนายทุนแก๊งค้าปืนเถื่อนออนไลน์
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน กรณีตำรวจกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)นำกำลังเปิดปฏิบัติการบุกทลายเครือข่ายค้าปืนเถื่อนออนไลน์
ในพื้นที่ ในพื้นที่ กทม. จ.สมุทรปราการ จ.ราชบุรี จ.สงขลา จับกุมผู้ต้องหาสำคัญขบวนการดังกล่าวได้หลายราย
พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนของกลาง ประกอบด้วย ปืนอาวุธสงคราม ปืนสั้น และปืนยาว รวม 154 กระบอก
ระเบิด 14 ลูก และเครื่องกระสุนนับพันนัด ภายหลังการจับกุมดังกล่าวจึงนำอาวุธปืนของกลางที่ยึด
ส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) เพื่อทำการตรวจสอบว่าปืนทั้งหมดเคยนำไปใช้ก่อคดีใดมาบ้าง
พบว่าในจำนวนปืนของกลางกว่าร้อยกระบอกนั้นมีปืนสั้นยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ซิกซาวเออร์
และ กล็อก รวม 18 กระบอก มีสัญลักษณ์ตราโล่ห์ ติดอยู่จึงตรวจสอบที่ไปที่มาอย่างละเอียด
ทราบว่าเป็นอาวุธปืนหลวงที่เจ้าหน้าที่เบิกออกมาใช้งานราชการ โดยจำแนกเป็นปืนที่เบิกมาจากคลังสังกัด
สถานีตำรวจนครบาลบางเสาธง 1 กระบอก สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา 5 กระบอก
สถานีตำรวจนครบาลหลักสอง 5 กระบอก กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม 2 กระบอก
สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 2 กระบอก สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 1 กระบอก
สถานีตำรวจภูธรโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร 1 กระบอก และอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกกระบอก
รายงานข่าวแจ้งว่าแนวทางสืบสวนเชื่อว่าการที่ปืนหลวงเหล่านี้มาอยู่ในความครอบครองของเครือข่าย
ค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ น่าจะเกิดจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายแอบนำปืนหลวงที่เบิกออกมา
เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติราชการไปจำนำกับนายทุนรับจำนำปืนที่อยู่ในเครือข่ายปืนเถื่อนดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
แต่เครือข่ายดังกล่าวเกิดถูกตำรวจกองปราบบุกทลายจับกุมตรวจยึดได้เสียก่อนที่จะไปไถ่กลับคืนมา
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) รับทราบเรื่องแล้วกำชับและมอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผบ.ตร.
ลงไปกำกับดูแลพร้อมให้สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สกบ.) ทำการตรวจสอบ
ว่ามีการปฎิบัติและกำหนดมาตราการในการควบคุมและการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน
เครื่องกระสุนสืนและวัตถุระเบิดของทางราชการ เป็นไปตามหนังสือ ตร.ด่วนที่สุด
ที่ 0008.421/ว44 ลง 30 กันยายน 2559 หรือไม่
อีกทั้งกำชับสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย ทุกพื้นที่ ลงไปตรวจสอบ กำกับดูแลตรวจสอบ
คลังอาวุธและยุทธภัณฑ์ของหน่วย พร้อมมีมาตรการป้องกัน ดูแลเก็บรักษาอาวุธปืน
เครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดของทางราชการให้เป็นไปตามคำสั่งและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ ของทางราชการไปก่อให้เกิดความเสียหายชำรุดหรือสูญหาย
หากผู้บังคับบัญชาในต้นสังกัดปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจลงไปกำกับดูแล จนเกิดข้อบกพร่อง จะพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน
สำหรับกรณี บก.ป. จับกุมและขยายผลเกี่ยวกับการรับจำนำปืนออนไลน์และตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้น
ของทางราชการจำนวนหลายกระบอก นั้น ขณะนี้ทาง บช.น. และ บช.ภ.7 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ
เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว หากผลการตรวจสอบพบว่ามีมูลและเกิดข้อบกพร่อง
ก็จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญากับข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปถึงข้าราชการตำรวจทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรักษา
เบิกจ่าย หรือเป็นผู้เบิกใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ ของทางราชการ ขอให้เคร่งครัดในการปฎิบัติตามระเบียบ
คำสั่ง ที่เกี่ยวข้อง หากไม่ปฎิบัติตามแล้วเกิดข้อบกพร่อง อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของทางราชการ
เกิดชำรุด หรือสูญหาย ท่านจะถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญาจนถึงที่สุด