SIG MCX
Maxim Defense 556
Battle Arms Workhouse
NLX 556
4ตัวนี้ อันไหนน่าเล่นสุดครับ เน้นแต่งยิงเล่นที่สนาม
ยิง กระบอกนี้จะเป็นขนาด 5.56กระบอกแรก ขอความคิดเห็นหน่อยครับ
SIG MCX Rattler 5.56 - ลูกบางล็อต,บางยี่ห้อที่ขนาดปลอกไม่ได้มาตรฐานหรือขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย ยิงแล้วนานๆครั้งจะมีติดขัดอยู่บ้าง ต้องส่งให้ร้านแต่งรังเพลิงจึงจะใช้ลูกได้ทุกยี่ห้อ นอกนั้นยังไม่เจอข้อเสียหลักๆครับ
Maxim PDX 5.56 - เป็นระบบDirect Impingement system ถ้าถอดHatebrakeของเดิมออก แล้วไปใส่Flash HiderหรือMuzzle Brakeยี่ห้ออื่นๆ จะยิงติดขัด ต้องใช้ของเดิมที่ให้มา ไม่งั้นต้องแก้เยอะ และถ้าชอบแต่งจะหาของลำบากเพราะUpper Receiver+Handguardนั้น เป็นแบบยกสูงเหมือนพวกHK416 Handguardเดิมระบบล็อคแน่นหนาดีแต่ว่าสั้นมาก M-lokมีแค่ 2 Slots ถ้าจะติดWeaponlightหรือBUISจะไม่ค่อยเหลือพื้นที่ให้มือข้างที่ไม่ถนัด ส่วนพานท้ายถ้าอยากใช้Buffer tubeของAR15ทั่วไปก็สามารถแก้ให้ใช้ได้เช่นกัน
Battle Arms Workhorse 5.56 - ระบบแก๊สปกติของAR15 ส่วนUpper+Lower หน้าตาแบบMil-spec ดูเรียบร้อย ไม่ฉูดฉาดหรือดูเลอะเทอะแบบพวกวัยรุ่นชอบแต่งกัน Handguardของเดิมระบบล็อคถือว่าแน่นหนาดี ด้วยโบลท์2+1ตัว ตัวกลางเป็นตัวเมียเหล็ก ขันได้แน่น เกลียวไม่หลวมหรือรูดง่ายๆ ของแต่งมีรองรับเยอะมาก เพราะใช้ร่วมกับAR15ทั่วไปได้เลย
NLX ไม่เคยลองครับ หน้าตาUp/Low เป็นMil-Spec แบบBA. Workhorse ถ้าให้ติก็คงเป็นที่Handguard ที่ใช้น็อตตัวเล็ก2ตัว เท่าที่เคยเจอมา พวกนี้พอยิงไปหลายๆร้อยนัด แฮนการ์ดกับบาเรลนัทจะเริ่มหลวมจนหมุนได้ พอขันให้แน่นขึ้นหน่อยเกลียวก็จะรูดครับ ยิ่งคนใส่Vertical gripด้วยจะยิ่งรำคานแฮนการ์ดที่หมุนไปมาได้ครับ แต่ค่อยหาแฮนการ์ดดีๆ เช่น Daniel Defense RIS หรือ Geissele ที่ใช้ทั้งBoltและNutเป็นเหล็ก มาเปลี่ยนใส่แทนของเดิมก็ได้ครับ
ต้องไม่ลืมว่าลูก5.56NATOที่ถูกออกแบบมาในยุค1970 จริงๆแล้วทำมาให้ใช้ในลำกล้อง18-20นิ้ว โดยที่ดินปืนเผาไหม้ได้มากที่สุดและหัวกระสุนมีระยะทางให้เร่งความเร็วได้มากพอก่อนที่จะวิ่งพ้นปากลำกล้องนะครับ พอในยุคปัจจุบัน มาทำสั้นมากแบบPistol ที่ลำกล้องสั้นลงเหลือแค่เกือบ1ใน4ของความยาวเดิมที่ถูกออกแบบมา ส่วนมากเป็นแนวPDW สำหรับใช้งานในที่แคบ,ในรถ,ซ่อนไว้ในสูท หรือเน้นใช้งานในระยะใกล้ๆ ถ้าดูจากการทดสอบในBallistic Chart พลังงานที่กระทบเป้าหมายจะลดลงอย่างมหาศาล เพราะความเร็วหัวกระสุนต่ำลงกว่าลำกล้องยาวอยู่มากๆ จนเหลือแค่ประมาณลูก9MM.+P หรือลูก .45 / .357ทั่วไปเท่านั้น พลังงานจะเหลือไม่ถึงครึ่งของลำกล้อง14-16นิ้ว ยิ่งใช้งานในระยะไกลๆด้วยแล้ว ลูกยิ่งตกเยอะตามแรงโน้มถ่วงจากความเร็วFPSที่ต่ำ บวกกับลำกล้องสั้นดินปืนที่ยังเผาไหม้ไม่สมบูรณ์แต่หัวกระสุนวิ่งพ้นปากลำกล้องไปแล้ว เวลาใช้งานไฟจึงแล่บจะออกปากกระบอกมากกว่า และเสียงดังกว่าลำกล้องยาวอยู่เยอะมากๆครับ
ส่วนถ้าจุดประสงค์คือยิงเล่นในสนามระยะ25-50เมตร ก็ไม่ต้องซีเรียสครับ จะใช้สั้นหรือยาวแบบไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าจะเผื่อเอาไปเล่นในสนามปืนยาว200-500เมตรด้วยก็จะลำบากหน่อยครับ หรือถ้าจะต้องเผื่อใช้งานTacticalจริงๆ ต้องเฝ้าบ้าน,เฝ้าสวนยามวิกาล พวกลำกล้องสั้นมีข้อดีคือน้ำหนักเบาและคล่องตัวกว่าเวลาใช้งานแบบCQB ส่วนข้อเสียของพวกลำกล้องยาวต่ำกว่า10.5-12.5นิ้ว นอกจากเสียงดังและรีคอยล์มากกว่าระบบGasของลำกล้องยาวๆก็คือ ต่อให้ใช้Flash Hiderดีๆ แบบSurefire 3/4 Prongs, AAC Blackout หรือเทพๆอย่าง BE.Meyers 249F ถ้ายิงในที่แสงน้อยหรือในที่มืด ไม่ว่าจะใช้ลูกM193 หรือM855ก็ยังสว่างมากๆ จนผู้ยิงเสียการมองเห็นในที่มืดไปชั่วขณะ และฟ้องตำแหน่งผู้ยิงให้อีกฝ่ายเห็นชัดเจนครับ ส่วนA2 Bird Cageตัวละไม่กี่ร้อยบาท ที่ติดมากับM16หรือColt M4นี่ไม่ต้องคิดเลยครับ ห่วยสุดๆ ใช้กับลำ14-16นิ้วยังสว่างเป็นลูกไฟ ถ้าใส่กับลำกล้องสั้นๆเหมือนโดนไฟฉายส่องเข้าตาครับ
หวังว่าจะเป็นข้อมูลเพียงพอประกอบการตัดสินใจนะครับ เพราะ5.56หลายๆยี่ห้อในไทยนั้นมีราคาสูงทั้งค่าใบและตัวปืน ควรหาข้อมูลให้เยอะๆและเลือกซื้อให้ถูกใจไปเลยทีเดียว จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขาย เวลาอยากย้ายค่ายหรือเปลี่ยนยี่ห้อครับ




