ส่วนตัวแล้ว ผมเห็นใจท่านรองหนู อนุทิน เป็นอย่างมาก เพราะเข้ามา ก็เจอเหตุต่อเนื่องเรื่องการใช้อาวุธปืน การก่อเหตุความรุนแรง
ยิ่งปัจจุบัน โลกโซเชียลและสังคมที่นำเสนอข่าวเพื่อสร้างคอนเทนต์ สร้างยอดผู้ติดตาม การปั่น ตีฟู ขยาย ขยี้ข่าว ไม่มีมีเหตุผล พูดเพ้อเจ้อ ไมค์จ่อปากถามทุกวันจนท่านหลุดการสัมภาษณ์เพื่อนำไปขยี้ขยายต่อ
ท่านต้องมั่นคงในหลักการ การทำหน้าที่ และยึดกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ใช่เอนเอียงไปตามกระแสสังคมที่อยากพูดอะไรก็พูดแล้วก็เอาอกเอาใจ การสื่อสารที่ชัดเจนและยึดกฎหมายอย่างมั่นคงนั่นคือการทำให้สังคมเชื่อมั่น เพราะท่านแม่นยำ มั่นคงและยึดกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่จำเป็นไม่ต้องตอบทุกคำถาม
การพกพาอาวุธปืนไม่ว่าจะมีทะเบียน ไม่มีทะเบียน ผิดกฎหมายทั้งหมด ไม่ต้องบอก มันก็ผิดอยู่แล้ว นอกจากเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับอนุญาต นอกนั้นทำไม่ได้
แต่ ผู้ก่อเหตุ พวกนี้ไม่สนใจหรอกว่า อาวุธปืนจะมีทะเบียนหรือไม่มีทะเบียน ไม่สนใจหรอกว่าต้องมีใบพกพาหรือไม่มี เพราะประสงค์ที่จะนำอาวุธไปเพื่อประทุษร้ายอยู่แล้ว หลงประเด็นกันไป หมด ตอนนี้ พวกที่ต่อต้านการครอบครองอาวุธปืน ถือโอกาส หยิบยกประเด็นมา เพื่อให้มีการยึดคืนหรือห้ามอนุญาตครอบครองกับสุจริตชนที่ทำถูกกฎหมาย และยืนอยู่ในที่แจ้ง ทำเสมือนว่า เขาพวกนั้นเป็นผู้ก่อเหตุ ตกเป็นจำเลยของสังคมตลอด ซึ่งเป็นตรรกะที่บิดเบี้ยวของพวกที่มีปากก็พูดเพ้อเจ้อ การที่ประเทศไทย ได้อนุญาตให้ประชาชน มีสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเพื่อการกีฬาหรือสันทนาการ มันมีข้อสรุปจบไปแล้ว และการขออนุญาต ก็ถือว่ารัดกุมเหมาะสมพอสมควรแล้วไม่ได้ต่างจากสากล
ไม่ว่าจะเป็นเหตุยิงคนที่ห้าง หรือ การก่อเหตุ วัยรุ่นยิงกันบริเวณหน้าโรงเรียน ย่านคลองเตย
เรื่องแรงจูงใจท่านแก้ไม่ได้ คนมันวิปลาส คนมันตั้งใจจะแก้แค้นหรือทำชั่ว ท่านแก้ตรงนั้นยากหรือทำไม่ได้หรอก
การก่อเหตุของวัยรุ่นยิงกันที่คลองเตย ท่านหรือสังคมก็ยังไม่รู้ว่า นั่นคือปืนมีทะเบียนหรือปืนไม่มีทะเบียน แล้วได้มายังไง เพราะยังจับตัวไม่ได้
มันมี
ประเด็นคือ การนำได้มาซึ่งอาวุธปืนดัดแปลง และ สองคือการนำพาอาวุปืนไปใช้ก่อเหตุสิ่งที่รัฐควรต้องทำคือ
1. การปราบปราม เพื่อไม่ให้มีการเข้าถึง ซื้อหา จำหน่าย ในการได้มาซึ่งอาวุธปืนดัดแปลงหรือจำหน่ายเครื่องกระสุนแบบผิดกฎหมาย โดยเฉพาะช่องทางการซื้อขายออนไลน์หรือกลุ่มต่าง ต้องลงโทษผู้ขายและเอาผิดผู้ซื้ออย่างเข้มงวดเด็ดขาด
2. ควบคุม ตรวจสอบ ตั้งด่าน ทุกห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาที่ล่อแหลม งานรื่นเริง สถานบันเทิง สถานีรถไฟฟ้า สถานที่สาธารณะ คอนเสิร์ต มี จนท. ตำรวจไปกำกับให้ผู้ประกอบการหรือผู้รับผิดชอบ ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ต้องบังคับให้ สถานที่เหล่านี้ ต้องมีมาตรการ ให้เปิดกระเป๋าตรวจค้น เดินผ่านเครื่องตรวจจับทุกคน ถ้าซื้อเครื่อง สแกนแบบสนามบินได้ ต้องบังคับให้มีและนำมาใช้
3. การเข้าใช้สนามยิงปืน เรื่องนี้ ไม่ยาก เป็นมาตรการปกติ ที่สนามต้องเก็บประวัติการเข้าใช้ ถ่ายสำเนา/ถ่ายรูป ทุกครั้ง บันทึกวันเวลาเข้าใช้ หรือ ทำทะเบียนสมาชิก หรือจะกำหนดอายุขั้นต่ำ เช่น ต่ำกว่า 15 ปีห้ามใช้ ไม่ว่าจะมี ผู้ปกครองหรือไม่ก็ตาม (ส่วนตัวแล้ว นักกีฬายิงปืนระดับแชมป์โลกหลายคน ก็ไม่ได้ฝึกตั้งแต่เยาวชน บางคนอายุ มากแล้วเสียด้วยซ้ำที่เข้าสู่การแข่งขัน) นายสนามและผู้ควบคุมทุกท่านไม่ว่า จะสนามของรัฐหรือเอกชน ต้องคอยสอดส่องดูแล อย่างเข้มงวด
ขอให้ท่านรองฯ มั่นคงในหลักการ กฎหมายไม่ได้มีปัญหา แต่การปราบปราม ตรวจค้น การเข้าถึงและพกหรือนำพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะหรือก่อเหตุ เป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวด
-------
เกี่ยวกับ ป. 12 การที่ ท่านอนุทิน มีนโยบายที่จะไม่ออกใบ ป. 12 ให้ กับ ประชาชน ทั่วไป ดีครับ แต่ในมุมมอง ดีแค่ครึ่งเดียว กลุ่มที่เคยได้ง่าย โดยตำแหน่ง ก็ได้ยากหรือไม่ได้อีกต่อไป ก็ลดกลุ่มนี้ลงไปได้ แต่มันไปลดกลุ่มที่ ไม่สนใจว่าจะมีใบอนุญาตอะไรหรือไม่ได้หรือเปล่า? ไม่สัมพันธ์อะไรเลย
ประชาชนทั่วไป ขอยากมาก ยากสุดๆ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ส่วนตัวขอไปแล้ว จะพกไม่พกก็อีกเรื่อง แต่มีไว้ก่อนดีกว่าไม่มี
------
ผมเป็นแฟนคลับ ท่านอดีตผู้การฯ คนดัง ยอมรับความสามารถและความเป็นตำรวจ โดยสายเลือด ท่านให้ความรู้ แนวทางมากมาก เป็นปูชนียบุคคลของประเทศคนนึง ด้วยความเคารพจริงๆ
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่ท่านบอกว่า กรมการปกครอง จะต้องออกมา แอ็คชั่น ปราบปราม การครอบครอง พกพา อาวุธปืน ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เข้มงวด ร่วมกับ ตำรวจ ไม่ใช่ให้ตำรวจทำอยู่แต่ฝ่ายเดียว
ตั้งด่าน ตั้งจุดตรวจค้นสิครับ พวก ปืนผิดกฎหมาย ปืนดัดแปลง ปืนปากกา เจอจับ ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
แต่ผมไม่เห็นด้วยกับท่านในบางประเด็น
1. กรณี จำกัดจำนวนการครอบครองกระสุน ปีละ 12 นัด ท่านครับ นั่นมันสมัยก่อน น่าจะตั้งแต่ตอนท่านยังหนุ่ม กระสุนปืนส่วนใหญ่น่าจะนำเข้ายังผลิตไม่ได้ในประเทศ ราคาแพง ร้านก็ให้น้อย
แต่ปัจจุบัน เราผลิตได้เอง ต้นทุนราคาก็ย่อมลดลง ภาระของประชาชนก็ลดลงตาม
การมีอาวุธปืน ไม่มีแค่มิติของการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังมีมิติของการกีฬาด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นที่ยอมรับกันโดยสากล
ปัจจุบัน ซื้อกระสุนที กล่องละ 50-100 นัด ต่อกล่อง ลูกซองก็ 25 นัด ต้องซื้อเหมาไปเลย จำนวนสะดวก ลงบัญชีได้พอดี เป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะฝึกซ้อมยิง ก็ครั้งละ 5 นัด นับจำนวนเพื่อความปลอดภัย กล่องนึง ตั้งแต่ 400 - 2000 บาท ไม่ถูกนะครับ ท่านก็รู้ดี จะให้ สนามทำแบ่งขายหรือร้านทำบัญชี ขายทีละ 12 นัด แบบนั้นเหรอครับ พูดได้ครับ แต่ท่านไม่ได้เป็นคนแบ่งทำขาย แบ่งทำบัญชีเอง นัดที่จะก่อเหตุ มันต้องเป็นนัดที่ 13 ขึ้นไปเหรอครับ? ดูคล้ายกับ การครอบครอง กระบอกที่ 6 ขึ้นไป นี่แหล่ะ
2. กรณี ให้ยิงให้หมดที่สนามซ้อม ท่านคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นผู้ชำนาญการใช้อาวุธ แต่ คนไปซ้อมยิง ยิงลูกซองที 25 นัด นี่เอาเรื่องนะครับ อาจถึงไปหาหมอกันเลยทีเดียว
ส่วนกระสุน 9 หรือ 45 ก็ตาม ยิงที ก็ ครึ่งกล่อง โดยประมาณ ครั้งหน้าก็เอามายิงอีก จะได้ลดค่าใช้จ่าย
กระสุนในสนาม มีทั้งด้าน เสีย ตกหล่นในสนาม จะให้ไปนับว่ายิงเท่าไร ตัดยอดเท่าไร เหลือฝากไว้ ที่สนาม ไหวเหรอครับ ในทางปฏิบัติ
ตอนซื้อกระสุน ก็เสียค่าสนามแล้ว ถ่ายบัตรประชาชนแล้ว พาสสปอร์ต ว่าใครเข้าใช้บ้าง ยังไม่พอจะพิสูจน์ตัวตนอีกเหรอครับ เข้าใช้ใหม่ก็ลงทะเบียนอีกทุกครั้ง
ส่วนโจร มันแอบมา อาจเพราะ ความเลินเล่นของสนาม ก็ต้องเข้มงวดตามกฎระเบียบที่มีอยู่แล้วกันไป
3. ห้าม อนุญาตซื้อขาย พวก กระสุน 223, 308, 338 ไรเฟิล ท่านเสนอห้ามขาย เพราะกลัวเอามาใช้ก่อเหตุ และ บางคนดัดแปลงให้ยิง แบบ ออโต้ ได้
มันก็คงจริงแบบท่านว่า เกิดขึ้นได้ แต่ทำดัดแปลง ก็ผิดกฎหมายทันที เอามายิงในสนาม นายสนามเจอก็แจ้งจับกุมได้เลย
โจรมันเอาปืนซื้อร้าน แพงๆ ไปก่อเหตุ หรือมันเอาปืนxxxที่ลักลอบซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ก่อการร้าย หรือ จนท.ประพฤติชั่วที่ลักลอบเอามาขายมาพร้อมเครื่องกระสุนมาก่อเหตุกันแน่?
พิสูจน์ได้ว่าเป็นปืนที่ซื้อมาจากร้านค้าปืนประชาชน มาเหรอครับ? เช่น เอา พวก 3แสนกว่าบาท มาดัดแปลงให้เป็น full auto แล้วเอาไปก่อเหตุตามที่ท่านว่า โจรคนนั้นมันต้องรวยพอสมควรเลยนะครับ แล้วตอนมันขอได้ ป. 3 นี่ มันต้องพิสูจน์ อะไรบ้างเนี่ย
เหตุยิงช่วงเดือน ต.ค. - พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งซุ้มมือปืน เด็ก แก็งซ่องโจรช่างกลที่เรียนไม่จบ กระสุนธรรมดาทั้งนั้นไม่ใช่เหรอครับ รวมทั้งปืนดัดแปลงไม่ใช่เหรอครับ?
ท่านครับ กระสุน เบอร์พวกนี้ ท่านก็รู้ว่า จะเอกชน สนามทหารหรือสนามตำรวจไม่มีขาย ต้องนำมาเอง คนใช้ซื้อมาจากไหน ก็ต้องแสดง ป. 4 ซื้อที่ร้านปืน กล่องนึง 20 นัด นัดละ 100 - 200 บาท ก็ 2-3 พันต่อกล่อง เข้าถึงไม่ง่าย
ผู้ครอบครอง อาวุธปืน ขนาดกระสุนขนาดนี้ ต้องพอสมควรครับ ค่าดำเนินการขอ เอกสาร การพิสูจน์ ก็มากกว่า อาวุธปืนทั่วไปที่ประชาชนครอบครองได้ง่ายกว่า
ส่วนใหญ่การก่อเหตุ น่าจะเป็นกลุ่มปืนสั้นมากกว่ารึเปล่าครับ? เพราะโจรมันพกพาได้ง่ายกว่า ในการนำพาไปก่อเหตุ
กระสุนที่ว่าจะไม่มีพวกลักลอบเอามาจากหน่วยราชการมาขายต่อให้โจรเหรอครับ? กระสุนจะไม่มีมาจากประเทศเพื่อนบ้านได้เลย?
ประชาชน ที่ได้ครอบครองปืนและเครื่องกระสุนประเภทนี้ ส่วนใหญ่ ที่เห็น ก็ไม่ธรรมดา ทั้งเรื่องฐานะ การงาน ตำแหน่ง
4. ผลกระทบต่อ สนามยิงปืน และ ร้านค้าอาวุธปืน การให้สัมภาษณ์ท่าน เชื่อได้เลยว่า มีคนไม่เห็นด้วยแน่นอน ในการควบคุมร้านค้าอาวุธปืน การขาย และการเข้าใช้สนาม
จำนวน อาวุธปืนที่ว่า ไทยมี 10 ล้านกระบอก จากข้อมูลเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องราว 6.5 ล้านกระบอก แต่ 4 ล้านกว่า เป็นการคาดการณ์ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง จะบอกว่ามีเถื่อน 1 ล้าน 20 ล้านก็ได้ ซึ่งไม่มีใครรู้จำนวนที่แท้จริงของอาวุธปืนไม่มีทะเบียนหรือผิดกฎหมาย ครั้งสุดท้ายก็ปี 2518 ที่ให้นำมาจด หลังจากนั้น มาจากไหนมากมาย ทั้งที่ สงครามเย็น สงครามเวียดนามก็ยุุติไปแล้ว ร้านค้าอาวุธปืน มีจดทะเบียน ควบคุม ระบบฐานข้อมูลของรัฐก็ดีขึ้น เปลี่ยนมือทุกครั้งก็นำมาแสดงซ้ำจึงจดแจ้งใหม่อีกได้ ต่อให้โอนมรดก ก็เถอะ
ท่านพูดเอง สถิติ ชัดเจน พวกปืนถูกกฎหมาย ต่ำกว่า ปืนผิดกฎหมายมาก ก็ต้องปราบกลุ่มปืนผิดกฎหมายหรือปืนดัดแปลงไม่ใช่เหรอครับ?
ธุรกิจร้านค้าอาวุธปืน / สนามยิงปืน อยู่ในที่แจ้ง มีคนมีงานทำหลายร้อยคน มีรายได้ น่าจะเป็นหลักหลายพันล้านบาทต่อปี ใจคอ เพราะคนชั่วไม่กี่คน ท่านจะทำหมันพวกเขาเหรอครับ? สนามบางสนาม มีรายได้จาก นักท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ามา ใช้สนาม วันนึงมีรายได้ เป็นหลักแสนต่อวัน พอจะนับเป็น ซอฟท์พาวเวอร์ ที่สร้างรายได้ให้ประเทศในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้มั๊ยคับ?
ตกลงเราจะจัดการ ปืนเถื่อน แบล็งกัน หรือ อะไรกันแน่ะครับ
เวลาเกิดเหตุทีไร ร้านปืน คนครอบครองถูกกฎหมาย โดนลากมาประจานกลางสี่แยกตลอด
การระงับใน ป. 2 นำเข้าอาวุธปืน ออกใบ ป.3 ยาก ไม่ว่าอาวุธขนาดเท่าไร จะซื้อปืนใหม่ หรือ ซื้อขายเปลี่ยนมือ รับโอน ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะ เหตุที่เกิด คือ ปืนเถื่อนทั้งนั้น
อย่าลืมนะครับ ว่า ทุกคนต้องมีวันแก่ ต้องมีการส่งต่อ อาวุธปื่นไปยังลูกหลานผู้รับมรดก หรือแม้กระทั่ง
ขายออก ไป เพื่อนำเงินมาใช้ บั้นปลายชีวิต ไม่ว่าจะรักษาตัวหรือยังชีพ ถ้าไประงับการซื้อขายที่ผู้ซื้อมีคุณสมบัติครบถ้วน ผู้ขายไม่ได้นำปืนผิดกฎหมายมาขาย (ซึ่งถ้าผิดกฎหมายจะไปติดต่อราชการให้ยุ่งยากทำไม
) ระงับ ดึงเรื่อง ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยครับ สมมุติขายสัก 50,000 บาท ก็ยังชีพได้ เดือนสองเดือนเลยทีเดียวสำหรับหลายคน
5. ... ประเทศที่รัฐมีปืนฝ่ายเดียวนี่ ....มันมีลักษณะเป็นอะไรคับ
------
เราน่าะจะมาคิดวิเคราะห์กันเป็นประเด็นๆ แล้ว จัดการให้ตรงจุดน่าจะเหมาะกว่า การเอาเรื่องโน้นมาโยงเรื่องนี้ มันก่อความสับสนและหลุดประเด็นกัน
4 ตอบ
942 อ่าน